Tips for Kids with Sensory Processing Issues avoid travel meltdowns
การพาเด็กที่มีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางระบบประสาทความรู้สึก (sensory processing issues) ออกไปท่องเที่ยวช่วงเทศกาลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในเด็กกลุ่มที่มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางความรู้สึกต่างๆ มากเกินไป (Sensory Over-responsive) หรือเด็กเซนซิทิฟ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสัมผัสผิวกาย (Tactile sense) ไม่ชอบให้ใครมาเข้าใกล้ สัมผัส ระคายเคืองมีปัญหากับเนื้อผ้าบางชนิด หรือด้านการรับรส/กลิ่น (Gustatory/Olfactory sense) ที่มีปัญหาการกินอาหาร และกลิ่นต่างๆ หรือด้านการได้ยิน (Auditory sense) ที่วิตกกังวลกับเสียงต่างๆ รอบตัว เด็กกลุ่มนี้มักหงุดหงิดง่าย งอแง วุ่นวาย ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หรือแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ต่างๆ ออกมา ดังนั้นผู้ปกครองควรมีการเตรียมการรองรับให้ดี เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่มีแต่ความสุข โดยทางเรามีคำแนะนำดังนี้
1. เตรียมสิ่งต่างๆ ที่ช่วยทำให้เด็กควบคุมตัวเองได้ไปด้วย
ถ้าลูกของเรามีลักษณะพฤติกรรมอยู่ในกลุ่มที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นประสาทความรู้สึกที่มากเกินไป (Sensory sensitivity) ไม่ว่าจะเป็นไวต่อแสง เสียง ผิวสัมผัสต่างๆ หรือกลิ่น ก็จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมที่มากเกินไป เช่น แว่นกันแดด ที่ปิดหู หรือของเล่นชิ้นเล็กที่เด็กถือแล้วสบายใจไปด้วย และส่วนใหญ่การให้เด็กกลุ่มนี้ได้ออกแรง (heavy work) เช่นการช่วยถือของที่มีน้ำหนัก หรือสะพายกระเป๋า จะช่วยทำให้เด็กควบคุมตนเองได้ดีขึ้น
2. เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัวที่เด็กคุ้นเคยไปด้วย
โรงแรมส่วนใหญ่จะมีบริการสบู่ แชมพู ยาสีฟัน ผ้าขนหนูเตรียมไว้ให้ แต่ถ้านำไปใช้กับเด็กกลุ่มที่ตอบสนองไวต่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้มากเกินไป อาจทำให้เด็กรู้สึกอึดอัดและแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นผู้ปกครองควรเตรียมของใช้ส่วนตัวของเด็กไปด้วยจะช่วยทำให้เด็กสบายใจรู้สึกเหมือนอยู่บ้านของตนเอง
3. ซักซ้อมจำลองสถานการณ์ก่อนออกเดินทางจริง
สำหรับเด็กโต ควรเตรียมเด็กโดยการพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่เด็กต้องพบเจอล่วงหน้า เช่น เราจะไปเมืองใหญ่ อาจมีเสียงดัง มีคนพลุกพล่าน หรือกลิ่นต่างๆ ที่เราอาจไม่คุ้นเคย บอกเด็กว่าควรต้องทำอย่างไร จะช่วยให้เด็กเตรียมใจรับสถานการล่วงหน้าได้ดีขึ้น
สำหรับเด็กเล็ก อาจเตรียมเด็กโดยการเล่นบทบาทสมมติเกี่ยวกับสถานที่ที่กำลังจะไป เช่น สมมติว่าบ้านเราเป็นสนามบิน หรือพิพิธภัณฑ์ และแต่งเรื่องราวว่าเราจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง เสียงดังของเครื่องบิน เสียงล้อลากกระเป๋า ผู้คนเดินเบียดเสียดไปมา อาจให้เด็กดูวีดีโอเกี่ยวกับสนามบิน หรือเครื่องบิน เป็นต้น
4. ในการเดินทางไกลด้วยรถยนต์ควรหยุดพักระหว่างทางบ่อยๆ
การนั่งในรถที่แคบและอึดอัดเป็นเวลานานเป็นสิ่งที่ยากลำบากสำหรับเด็กที่มีปัญหาการประมวลผลระบบความรู้สึก (Sensory Processing issues) การหยุดพัก 10 นาที ทุกๆ หนึ่งชั่วโมงจะช่วยทำให้เด็กรู้สึกดีขึ้นได้
ถ้าลูกของเราต้องการเวลาสงบเพื่อผ่อนคลาย (Quiet time) อาจวางแผนการเดินทางให้มีจุดพักนานๆ ระหว่างทาง หากเป็นเด็กกลุ่มที่แสวงหาข้อมูลความรู้สึกที่มากเกินไป อยู่นิ่งๆ นานไม่ได้ อาจเตรียมบอลให้เด็กเตะเล่น หรือช่วยถือตะกร้าระหว่างแวะซื้อของ จะช่วยทำให้เด็กรักษาความตื่นตัวของระบบประสาทได้ดีขึ้น
5. เผื่อเวลาสำหรับการเดินทางให้มาก
การเดินทางที่เร่งรีบเพื่อให้ไปถึงจุดมุ่งหมายปลายทางให้ทันเวลา สามารถทำให้เด็กเกิดความเครียด (overload by the stress) จากการที่ต้องพบเจอสถานที่ไม่คุ้ยเคย อาจกระตุ้นทำให้เด็กเกิดภาวะวิตกกังวล และแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ออกมาได้ (meltdown) ถ้าหากเรารู้สึกว่าการเดินทางของเราเริ่มเกิดภาวะความเครียด ควรหยุดตัวเราเองและตั้งสติ จะทำให้ลูกของเราสงบขึ้นได้อีกทาง
6. มองหามุมสงบระหว่างรอขึ้นเครื่อง
เวลารอเครื่องขึ้น หรือระหว่างเปลี่ยนย้ายเครื่องที่ต้องรอเวลานาน ควรมองหามุมที่สงบสำหรับเด็ก เพื่อลดความวุ่นวายจากผู้คน เสียงประกาศต่างๆ จะช่วยลดการกระตุ้นที่มากเกินไปได้
7. วางแผนการบอร์ดดิ่งขึ้นเครื่อง
สายการบินบางสายอาจมีบริการพิเศษสำหรับครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น อนุญาตให้ขึ้นเครื่องก่อน หรือหลังจากที่ทุกคนขึ้นเครื่องหมดแล้ว ซึ่งเราควรติดต่อกับทางสนามบินก่อน จะช่วยลดความวุ่นวายให้เด็กของเราได้
8. เตรียมชุดของเด็กไปด้วย
หากต้องเดินทางไปสถานที่ที่มีสภาพอากาศ หรืออุณหภูมิที่แตกต่างออกไปจากที่บ้าน ควรเตรียมชุดที่คุ้นเคยของเด็กไปด้วย หรือถ้าเป็นไปได้ให้เด็กเป็นคนเลือกเอง จะช่วยเด็กที่มีปัญหาในการตอบสนองต่อระบบความรู้สึกจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น
9. เตรียมอาหารที่เด็กคุ้นเคยไปด้วย
สำหรับเด็กที่มีความไวต่อชนิดผิวสัมผัสของอาหาร หรือรสชาติอาหารต่างๆ หรือในเด็กกลุ่มที่มีปัญหาพฤติกรรมเวลาหิว ควรจัดเตรียมอาหารที่เด็กคุ้นเคยไปด้วย จะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมของเด็กกลุ่มนี้ได้ดี
10. พยายามจัดกิจวัตรประจำวัน กฎระเบียบวินัยให้เหมือนกับตอนอยู่บ้านให้มากที่สุด
การพักร้อน ท่องเที่ยวทำให้กิจวัตรประจำวันของเด็กเปลี่ยนแปลง จะทำให้เด็กกลุ่มที่มีปัญหาการตอบสนองที่มากเกินไปของระบบความรู้สึก แสดงปัญหาอารมณ์ พฤติกรรม ยึดติด หงุดหงิด งอแง ไม่เชื่อฟังออกมาได้ ดังนั้นควรพยายามจัดตารางกิจวัตร เช่น เวลาเข้านอน เวลาตื่น หรือกฎระเบียบวินัยต่างๆ ให้เหมือนกับอยู่บ้านมากที่สุด จะช่วยทำให้เด็กควบคุมจัดการกับอารมณ์ พฤติกรรมของตนเองได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ช่วยลดกระตุ้นระบบประสาทความรู้สึก ทำให้เด็กควบคุมอารมณ์ และพฤติกรรมตนเองได้ดีขึ้น
** การใช้ที่ปิดหู Ear phone, Ear muffs หรือ Ear plugs จะช่วยเด็กที่ตอบสนองต่อเสียงที่มากเกินไปได้
ทำให้เด็กสงบ ลดพฤติกรรมวุ่นวาย
** การให้เด็กใส่เสื้อกักน้ำหนัก Weighted Vest
จะช่วยเด็กได้รับแรงกดเชิงลึก Deep pressure ทำให้เด็กรู้สึกสงบ
** สำหรับเด็กที่มีการตอบสนองต่อแสงมากกเกินไป อาจลดการกระตุ้นโดยให้เด็กใส่แว่นดำ Sunglasses ระหว่างเดินทาง จะทำให้เด็กหันเหความสนใจตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นน้อยลง ลดอาการ Sensory Overload
** สำหรับเด็กที่ตอบสนองต่อการสัมผัสมากเกินไป Tactile Over-responsive ลดการกระตุ้นโดยให้เด็กใส่เสื้อแขนยาวที่รัดตัวพอดี จะช่วยทำให้เด็กรู้สึกมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น
** ของเล่น fidget toys ให้เด็กถือไว้จะช่วยทำให้เด็ก Regulate ควบคุมตนเองได้ดีขึ้น
เรียบเรียงจากบทความของ Amanda Morin, www.understood.org. โดย Mind Brian & Body ธันวาคม 2558
ความคิดเห็น